การรักษาต้อกระจกมีกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?

รักษา ต้อกระจก
August 11, 2022 0 Comments

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น สิ่งที่ตามมาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย นั่นก็คือปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความเสื่อมของร่างกายก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ โรคต้อกระจก ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับสายตาโดยตรง ทำให้ตาพร่า มองเห็นได้ไม่ชัดเหมือนเดิม และหากปล่อยเอาไว้นานขึ้น ก็อาจจะเสี่ยงทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้อีกเลย แต่ถ้า รักษา ต้อกระจก ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็สามารถกลับมาหายเป็นปรกติได้เหมือนกัน 

รูปแบบของการรักษาต้อกระจก 

เพราะฉะนั้นวันนี้ เราจึงพาทุกท่านมาทำความรู้จักเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคต้อกระจกก่อน ว่ามีกี่รูปแบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร ในปัจจุบันนั้น รูปแบบของการรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันก็คือ 

  • การรักษาด้วยการไม่ผ่าตัด เป็นการรักษาที่ต้องทำตั้งแต่เนิ่นๆ คือเมื่อรู้ตัวว่าเริ่มต้นต้อกระจก ก็ต้องมีการรักษาตั้งตอนแต่นั้นเลย โดยวิธีการรักษาได้แก่ การตัดแว่นให้เหมาะสมกับสายตาในขณะนั้น เพื่อเป็นการป้องกันแสงต่างๆ ที่เข้ามากระทบกับดวงตา และเสี่ยงทำให้ตาเสียหายเร็วขึ้น และยังเป็นการชะลอความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกอีกด้วย  
  • การรักษาด้วยการผ่าตัด เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะว่าผู้ป่วยสามารถกลับมามองเห็นเป็นปรกติได้ ถ้าหากได้รับการผ่าตัดอย่างถูกต้อง โดยจุดประสงค์ของการผ่าตัด ก็เพื่อเป็นการเอาเลนส์แก้วตาที่เสื่อมออกไป แล้วใส่เลนส์ตาเทียมเข้าไปแทนของเดิม  

ข้อดี-ข้อเสีย ของการรักษาต้อกระจกแต่ละแบบ 

สำหรับขั้นตอนของการ รักษา ต้อกระจก ด้วยวิธีการผ่าตัดนั้น ก็มีอยู่หลายแบบเช่นกัน แต่ละแบบ ก็จะมีข้อดีต่างกันออกไป ได้แก่ 

  1. การผ่าตัดเพื่อลอกต้อกระจก เป็นการผ่าตัด เพื่อเอาถุงที่หุ้มเลนส์แก้วตาออกให้หมด จากนั้นก็เลนส์ใหม่เข้าไป แต่ว่าการวางเลนส์อาจจะทำได้ค่อนข้างยาก แพทย์ที่ทำการรักษาด้วยวิธีนี้ จะต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เกี่ยวกับการผ่าตัด และอาจต้องใช้เวลาในการรักษาที่นาน 
  1. การผ่าตัดแบบแผลใหญ่ วิธีนี้เป็นการผ่าตัดด้วยการเอาเลนส์แก้วตาเก่าออก ให้เหลือเพียงแค่เปลือกที่ใช้หุ้มแก้วตาอย่างเดียวเท่านั้น จากนั้นก็จะทำการเย็บเพื่อปิดแผล การรักษาด้วยวิธีนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นที่นานพอสมควร  
  1. การผ่าตัดด้วยคลื่นความถี่สูง เป็นวิธีการรักษาแบบใหม่ล่าสุด วิธีการรักษารูปแบบนี้ จะใช้การฉายคลื่นความถี่สูงเข้าไปเพื่อสลายเนื้อแก้วตา และทำการดูดส่วนที่ถูกสลายออกมา จากนั้นก็ทำการนำเลนส์แก้วตาของใหม่เข้าไปแทนที่ จุดเด่นของการรักษาด้วยวิธีนี้คือ ทำให้เกิดเป็นแผลที่เล็กมาก ไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นนานเหมือนกับรูปแบบอื่นๆ  

สรุป 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายละเอียดที่เกี่ยวกับการ รักษา ต้อกระจก ทั้งหมดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม แนะนำว่าควรปรึกษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องดวงตาโดยตรงจะดีที่สุด เพราะคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และรู้วิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเราด้วย รวมถึงแนวทางในการปฏิบัติหลังจากรักษา ว่าควรทำอย่างไร ถึงจะกลับมามองเห็นเป็นปรกติเหมือนเดิมได้อีก การสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญ จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด